รู้เรื่องกันมากขึ้น กับ 7 แอพแปลภาษาด้วยเสียง ใช้ง่ายด้วยมือถือเครื่องเดียว
เพราะการแปลภาษาด้วยข้อความธรรมดาเริ่มไม่ทันใจ หรือเกิดวันใดเจอเหตุการณ์ที่ต้องพูดคุยกับชาวต่างชาติขึ้นมา จะมัวแต่พิมพ์ประโยคก็คงไม่ทันการ ShopBack Blog จึงขอช่วยเหลือทุกคนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้มาใช้ 7 แอพแปลภาษาด้วยเสียง ใช้ได้ทั้งมือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์ระบบ iOS และ Android บางแอพใช้งาน Offline ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ได้ บางแอพรองรับแบบ All-in-One แปลได้ทั้งเสียง ข้อความ รูปภาพ แล้ว 7 แอพเหล่านี้จะมีแอพใดกันบ้าง เลื่อนลงไปดูข้างล่างกันเลย
เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักแอพพลิเคชั่นแปลภาษาชื่อดังอย่าง Google Translate ที่สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ต้องมีทุกเครื่อง และน่าจะเป็นแอพแปลภาษาที่ดีที่สุด ใช้งานสะดวกที่สุดของหลายๆ คน นอกจากการแปลข้อความ text และข้อความบนรูปภาพแล้ว
เพียงกดปุ่ม Speak now เพื่อพูดให้ Google Translate นำข้อความเสียงไปแปล หรือเลือกเมนู Conversation เพื่อให้ผู้สนทนาอีกภาษาหนึ่งได้พูดให้ Google Translate แปลแต่ละประโยค แต่ละภาษาได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเราสามารถดาวน์โหลด Google Translate ฟรีได้ทั้ง Android และ iOS
สำหรับใครที่ต้องใช้แอพแปลภาษาด้วยเสียงอย่างจริงจังหรือใช้งานบ่อย ขอแนะนำ iTranslate Translator แอพที่ใช้งานได้แม้จะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ตาม (Offline Mode) รองรับทั้งการแปลเสียงและภาพถ่าย ไม่มีโฆษณาเข้ามาเกะกะขณะใช้งาน สามารถเปิดฟังเสียงอ่านและปรับความเร็ว-ช้าของเสียงตัวอย่างได้ แปลได้ถึง 44 ภาษา
แต่ iTranslate Translator เปิดให้ใช้งานฟรีเพียง 7 วันเท่านั้น หลังจากนั้นต้องจ่าย 169 บาทต่อเดือน หรือ 1,300 บาทต่อปี เมื่อมาหารเฉลี่ยแล้วก็ตกเดือนละ 108 บาทเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากใช้งานฟรีแค่ 7 วันแรก ก็สามารถยกเลิกก่อนครบ 7 วันได้
สามารถดาวน์โหลด iTranslate Translator ได้ทั้ง Android (ฟรี 7 วัน หลังจากนั้น จ่ายเดือนละ 169 บาท หรือปีละ 1,300 บาท) และ iOS (ฟรี 7 วัน หลังจากนั้น จ่ายเดือนละ 169 บาท หรือปีละ 1,300 บาท)
แอพแปลภาษาด้วยเสียงที่มีชื่อน่ารักๆ อย่าง SayHI Translate ก็เป็นแอพแปลภาษาที่น่าสนใจ หน้าตาแอพสวยและยังใช้งานง่าย มีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเลือกเสียงตัวอย่างว่าจะเป็นเพศหญิงหรือชาย และปรับความเร็วของเสียงตัวอย่าง หากฟังไม่ทันก็สามารถปรับให้ช้าลงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแอพเพื่อใช้งานแปลภาษาด้วยเสียงอย่างเดียว กดอัดเสียงปุ๊บ แปลให้ได้ทันที สามารถดาวน์โหลด SayHI Translate ได้ฟรีทั้ง Android และ iOS
VoiceTra (Voice Translator) แอพแปลภาษาด้วยเสียงที่ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้ไม่เป็น เพราะครั้งแรกที่ใช้งานแอพนี้จะมี Tutorial สอนวิธีการใช้งานอย่างละเอียด แต่น่าเสียดายที่ VoiceTra (Translator) รองรับการแปลภาษาด้วยเสียงเพียง 31 ภาษาซึ่งยังน้อยกว่าแอพพลิเคชั่นรุ่นอื่น
แต่จุดเด่นของแอพนี้ก็คือ รองรับการแปลภาษาลาว แม้ว่าภาษาลาวจะมีลักษณะบางส่วนคล้ายภาษาไทย แต่ทำให้เห็นว่าประเทศลาวและภาษาลาวก็เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติมากๆ ทีเดียว สามารถดาวน์โหลด VoiceTra (Translator) ได้ฟรีทั้ง Android และ iOS
หากใครจำเป็นต้องพบเจอชาวต่างชาติหรือแปลเสียง แปลภาษาที่หลากหลาย ShopBack Blog ขอแนะนำ Translate Voice ที่รองรับภาษาหลักๆ อย่างภาษา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, เกาหลี, จีน, ญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งแอพนี้แปลภาษาด้วยเสียงได้มากถึง 44 ภาษา และแปลข้อความได้ 80 ภาษา เรียกได้ว่าเป็นแอพพลิเคชั่น All-in-One ครบในหนึ่งเดียว
นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ไขคำที่แอพแปลผิดและบันทึกลงไปใหม่ได้ ถือว่าช่วยแอพพัฒนาความสามารถ แปลภาษาได้ถูกต้อง ตรงตามความหมายมากยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่ Translate Voice มีเฉพาะในระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น สามารถดาวน์โหลด Translate Voice ได้ฟรีที่ Android
Microsoft Translator เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแอพแปลภาษาที่ดีที่สุด ควรมีติดมือถือไว้ เพราะทาง Microsoft ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอทีและแอพพลิเคชั่นมานาน เรื่องการพัฒนาแอพก็เป็นสิ่งที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว ซึ่ง Microsoft Translator รองรับภาษาต่างๆ เยอะมาก
มีความโดดเด่นที่เมื่อกดอัดเสียงคำพูด ประโยค Microsoft Translator จะทำการแปลความหมายเป็นตัวอักษรบนหน้าจอ และขยายใหญ่ให้เต็มหน้าจอได้ สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องสื่อสารกับชาวท้องถิ่น และมีตัวอย่างคำอ่านภาษาอังกฤษเทียบกับภาษานั้น ๆ (คล้ายกับภาษาคาราโอเกะ) นอกจากนี้ แอพยังเก็บบันทึกศัพท์ ประโยคที่เคยแปล และปักหมุดคำ ประโยคที่ใช้งานบ่อยเก็บไว้ได้อีกด้วย สามารถดาวน์โหลด Microsoft Translator ได้ฟรีทั้ง Android และ iOS
แอพแปลภาษาด้วยเสียง Papago เป็นแอพจากบริษัทชื่อดังอย่าง NAVER ของเกาหลีใต้ สังเกตง่ายจากไอคอนแอพรูปนกแก้วสีน้ำเงินปากเขียวน่ารัก มีนิยามสั้นๆ ว่าเป็น AI Translator โดย Papago ครอบคลุมการแปลภาษาที่ผู้คนทั่วโลกส่วนใหญ่ใช้งาน ทั้งเกาหลี อังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น, ไทย, เวียดนาม, ฝรั่งเศส, สเปน, อิตาลี ฯลฯ
ซึ่งใน Papago ใช้งานได้ทั้งการแปลเสียง บทสนทนา คำศัพท์บนรูปภาพ ลายมือ สังเกตได้ว่าภาษานั้นๆ รองรับการแปลด้วยเสียงหรือไม่ ปุ่ม Voice ในแอพจะสามารถกดเพื่ออัดเสียงได้ ส่วนใครที่แปลภาษาผ่านคอมพิวเตอร์เป็นหลัก Papago ก็มีบริการแปลคำศัพท์และประโยคบนหน้าเว็บไซต์ หรือ Copy link หน้าเว็บไซต์ภาษาอื่นมาแปลก็ได้ นอกจากนี้ Papago ยังใช้งานแบบ Offline ไม่ต้องต่อเน็ตได้ด้วย สามารถดาวน์โหลด Papago ได้ฟรีทั้ง Android และ iOS
เชื่อว่าหลายคนน่าจะอยากสื่อสารได้หลายภาษา นอกจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่นอกเหนือจากการอ่านหนังสือ หรือใช้แอพแปลภาษาด้วยเสียงแล้ว มีวิธีการใดอีกที่จะทำให้ได้ฝึกภาษาอีกบ้าง ซึ่งอีกวิธีการยอดนิยมก็คือ การทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิต อยู่ในสภาพแวดล้อมของชาวต่างชาติ แต่กิจกรรมใดบ้างที่ช่วยส่งเสริมทักษะด้านภาษาได้บ้าง มาดูกิจกรรมที่ ShopBack Blog แนะนำกัน รับรองว่าถ้าฝึกบ่อยๆ เข้าใจภาษาอื่นๆ ได้คล่องแน่นอน
• เพราะภาษาและการสื่อสารไม่จำกัดแค่ในหนังสือเรียน แต่อยู่ในชีวิตประจำวันทั้งหมด ฉะนั้น กิจกรรมด้านความบันเทิงอย่างการเล่นเกม ดูหนัง ดูคลิปวิดีโอใน YouTube ฟังเพลง ฟัง Podcast ไทยที่แนะนำเรื่องการเรียนภาษา หรือ Podcast ของภาษาอื่นๆ ไปเลย จึงทำให้หลายคนศึกษาและเข้าใจภาษาได้เป็นอย่างดี แต่ต้องใช้วิธีศึกษาที่เข้าถึงจริงๆ เช่น ดูหนังเสียง Soundtrack หรือปิด Subtitle ภาษาไทย เล่นเกมออนไลน์ร่วมกับผู้เล่นต่างชาติ เป็นต้น
• ใครๆ ก็น่าจะชอบการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ แต่จะทำอย่างไรให้ได้ฝึกพูด ฝึกฟังภาษาที่ต้องการ ซึ่งสถานการณ์ที่ทำให้ได้สนทนากับชาวต่างชาติก็มีหลายอย่าง เช่น การไปเที่ยวแบบ One Day Trip ที่รวมนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ, การทำกิจกรรม Workshop กับเพื่อนร่วมทริป หรือถ้าเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาถามทาง ขอความช่วยเหลือ นี่ก็เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งที่ช่วยฝึกฟัง ฝึกพูด และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
• หลายคนคิดว่าการเรียนพิเศษเป็นเรื่องของเด็กๆ วัยรุ่นเท่านั้น แต่สถาบันสอนพิเศษหลายที่ก็มีคอร์สเรียนภาษาสำหรับผู้ใหญ่ รวมถึงการฝึกพูด ฝึกฟัง การทำความเข้าใจและวิธีการแปลที่ถูกต้อง หากไม่สะดวกไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชา ก็มีคอร์สออนไลน์ให้เลือกเรียนมากมาย คอร์สเรียนฟรีก็มีนะ หรือบางคนสื่อสารในระดับเบื้องต้นได้แล้ว แต่มีจุดอ่อนในเรื่องของการนำเสนองาน หรือการพูดภาษาทางการ สถาบันบางแห่งก็มีคอร์สพัฒนาบุคลิกภาพและความมั่นใจให้เรียนเสริมด้วยนะ
ShopBack Blog หวังว่า 7 แอพแปลภาษาด้วยเสียงเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนแปลภาษาได้อย่างสะดวกขึ้น ไม่ต้องพิมพ์ประโยคยาวๆ ให้ลำบากอีกต่อไป ถึงแม้ว่าแอพแปลภาษาจะมีให้เลือกมากมาย แต่แอพแปลภาษาที่ดีที่สุดของแต่ละคน ก็คือแอพที่แต่ละคนรู้สึกว่าใช้งานง่าย สะดวก แปลภาษาได้ถูกต้องแม่นยำ ช่วยให้ทักษะภาษาดีขึ้นกว่าเดิม
แต่อย่าลืมว่าหัวใจของการเรียนภาษาก็คือการฝึกฝน การใช้ภาษานั้นๆ จนคุ้นชินและเกิดการพัฒนา เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้การใช้ภาษาต่างๆ ดีขึ้นจากเดิมแล้ว ShopBack Blog เชื่อว่า 7 แอพเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนสนุกกับการฝึกภาษามากขึ้น แล้วครั้งต่อไปเราจะมาแนะนำอะไรอีก ก็รอติดตามได้จาก ShopBack Blog นะคะ