ยังจำความรู้สึกของเครื่องเสียงชิ้นแรกในชีวิตกันได้มั๊ย ?

By สุโสภาภรณ์ แดงอุบล

ยังจำความรู้สึกของเครื่องเสียงชิ้นแรกในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นลำโพงคู่แรก CD Player ตัวแรก AVR, Int Amp ตัวแรกที่เราควักกระเป๋าตังซื้อกันได้หรือเปล่าครับ? คุณจำได้มั๊ย มั๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ทำเสียงเอคโค่)

เค้าว่ากันว่าคนเราจะจดจำแบรนด์ หรืออันดับอะไรก็ตามที่เป็นที่หนึ่ง กับที่สุดท้าย ได้ดีที่สุดเสมอ

และไม่มีใครอยากจะจดจำอันดับที่สองหรือกลางๆแน่นอน

มีใครลืมรักครั้งแรกลงได้มั่ง หรือมีใครลืมเครื่องเสียงชิ้นแรกที่ซื้อลงมั๊ยครับ ว่าชิ้นแรกของคุณเนี่ยมันคืออะไร ยี่ห้อไหน เสียงอาจจะลืมไปแล้วอันนี้ไม่เป็นไร (ผมก็ลืม แฮ่ๆ)

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังติดตรึงในสมองและความรู้สึกได้ดีนั่นก็คือ บรรยากาศ สีสัน และกลิ่นไอของความสุขในช่วงเวลานั้นๆ ไม่ว่าเครื่องเสียงชิ้นแรกของคุณเสียงมันจะไม่ดี จะห่วย จะถูกแสนถูกแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่คุณคิดถึงมัน ก็มักจะได้กลิ่นไอจางๆ ได้ยินเสียงเพลงแว่วๆลอยมาตามลมที่พัดพาเอาอดีตในช่วงเวลานั้นกลับมาด้วยเสมอ

รวมไปถึงบุคคลที่อยู่ในห้วงความทรงจำช่วงนั้นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านที่ขาย คนที่คุณนั่งฟังด้วย เพื่อนฝูง ก๊วนที่เคยเล่นเครื่่องเสียงกับคุณในยุคนั้น รวมถึงสถานที่ บ้านเก่าๆ ห้องฟังที่เคยคุ้นชิน ก็หวนกลับมา

สำหรับบางคนช่วงเวลานั้นอาจจะผ่านมานานเป็นหลายสิบปีจนเสียไปแล้วบ้าง หรือขายกินไปแล้วก็มี หรือบางคนอาจจะเพิ่งเริ่มต้นออกเดินทางในถนนเส้นนี้ หรือบางคนอาจจะเก่าแก่มากไปกว่านั้นจนเข้าขั้น vintage ถึงขนาดเก็บสะสมไว้เป็นความทรงจำและสมบัติที่มีคุณค่า

เกริ่นมาซะไกล ก่อนที่จะเวิ่นเว้อโชว์แก่มากไปกว่านี้ ผมขอเข้าเรื่องเลยละกัน วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องเครื่องเสียงชิ้นแรกของผมครับว่าคืออะไร และความประทับใจที่มีต่อมันนั้นมากมายแค่ไหน

ซึ่งตรงนี้อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆหลายๆท่านในนี้ ร่วมกันแชร์ภาพและบรรยากาศความทรงจำดีที่มีต่อเครื่องเสียงชิ้นแรกกันครับ จะมีภาพด้วยหรือมีแต่ตัวหนังสืออย่างเดียวก็ได้ไม่ว่ากัน (เข้าใจว่านานแล้วคงไม่มีใครเก็บรูปไว้) เริ่มเลย 1 2 3 Go

1. ลำโพงตัวแรกในชีวิต: Wharfedale emerald EM-93 ใช่ครับนี่คือลำโพงที่งดงาม กับความไว 86 dB ดูแล้วทรงคุณค่าน่ารักษา ทั้งตัวตู้ผิวไม้ ทั้งทวีตเตอร์โดมไหมแบบนุ่มที่ยั่วยวนเด็กๆให้เอานิ้วไปจิ้มสุดๆ

และนี่คือไม่ใช่แค่ลำโพงที่ look โคดจะวินเทจและย้อนยุค แต่เสียงของมันก็ยิ่งวินเทจ และฟังสบาย เหมาะกับเพลงแนวเก่าๆด้วยเช่นกัน เรียกว่าเปิดลำโพงนี่ฟังแล้วนึกถึงยุคสุรชัย สมบัติเจริญ นึกถึงเสียงกร๊อบแกร๊บๆของแผ่นไวนิล เสียงอุ่นๆ เบสเยิ้มๆ หนืดๆ เสียงกลางอุ่น นุ่ม มีมวล สปีดช้านิดๆ เหมาะที่สุดแล้วสำหรับเพลงช้าและเพลงที่ต้องการปล่อยใจให้เคลิบเคลิ้มไปกับชายามบ่าย

แต่ทว่าผมเอามันมาฟังร๊อค และนี่คือลำโพงตัวแรกที่อยู่กับผมได้ไม่นาน และยังประทับใจผมจวบจนถึงทุกวันนี้

2. Integrated Amp ตัวแรก: Nad 320 BEE ตัวนี้คือ Integrated Amp หน้าตาทื่อๆ มีฟังก์ชั่นเท่าที่จำเป็น กำลังสำรองโอเค เอาไปขับลำโพงอะไรก็ออก เสียงก็ออกกลางๆ นิ่งๆไม่มีสีสัน แต่คุ้มเงินที่สุดตัวนึงก็ว่าได้ จะว่าไปนี่คือ Amp 2 channel ที่ให้เสียงราบเรียบในทุกย่าน บริสุทธิ์และคัลเลอร์น้อยซะจนเอามันไปจับกับลำโพงอะไรก็ให้เสียงแบบลำโพงตัวนั้น และที่สำคัญแอมป์ตัวนี้ทนยังกับโคถึก ใช้ไปเถอะกี่ปีก็ไม่พัง ผมเก็บไว้ในห้องร้อนๆไม่ได้เปิดมา 3-4 ปีมันยังอยู่ดีสภาพเหมือนเดิมทุกประการ

และที่สำคัญตัวแทนผู้นำเข้า (Conice) ดูแลลูกค้าดีมว๊ากที่สุดเท่าที่ผมเคยประสบพบมาบริษัทหนึ่ง

3. ตัวสุดท้าย Integrated Amp HK3490 ตัวนี้พิเศษที่สุด ซึ่งเป็น Integrated Amp ตัวที่สองต่อจาก Nad 320 BEE ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวแรกก็ตาม แต่ตัวนี้มันมีความพิเศษ ความคุ้มค่า และความประทับใจที่ผมชอบจนซื้อเก็บไว้ถึงสองตัว ปัจจุบันนี้ยังเหลือเก็บไว้หนึ่งตัว ใช้งานดีมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลย จนปัจจุบันปลดระวางตั้งไว้เฉยๆเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ยระลึก

ตัวนี้เป็นแอมป์ฟังเพลง2 channel ที่ให้กำลังขับสูงถึง 120 watt ที่ 8 โอหม์ ในราคามือหนึ่งแค่ 17,000 (ปัจจุบันไม่มีขายแล้ว) เอกลักษณ์ของมันก็คือเสียงทึบ และ dark ใช่แล้ว พูดไม่ผิดแน่นอน ทุกวันนี้วงการเครื่องเสียงบ้านมี amp สำหรับออดิโอไฟล์ แอมป์สำหรับเพลงหวานๆออกมากันเต็มตลาด ทุกคนต่างหาแอมป์เสียงหวาน อุ่นนุ่ม แล้วทางเลือกของคนฟังร๊อค ฟังลูกทุ่ง ฟังเพลงมันๆละ คำตอบคือมีครับ ตัวนี้นี้แหละ เสียงก็ฟังเพลงดีในระดับที่ผมพอใจ ขับลำโพงตั้งพิ้นระดับดอก 8 นิ้วพอได้ ถ้าถามว่าซื้ออะไรมาแล้วคุ้มตัง พอใจที่สุด ผมก็จะบอกว่าเมื่อเทียบวัตต์ต่อราคา ต่อความพึงพอใจ (ของผมเอง) ก็มีตัวนี้นี่แหละ ไม่งั้นคงไม่เก็บไว้จนป่านนี้

มาถึงจุดนี้ผมก็ผ่านเครื่องเสียงมามากมายถ้าถามผมว่าเครื่องเสียงชิ้นแรกของผมคืออะไร ผมก็เล่าความประทับใจและบอกประสบการณ์ในอดีตของมันให้ทุกคนได้ฟังแล้ว

ถ้าถามกลับกันว่าแล้วเครื่องเสียงชิ้นสุดท้ายของผมละ คือเครื่องเสียงชิ้นไหน ตัวไหน ตรงนี้ต้องบอกว่าตอบไม่ได้จริงๆครับ เครื่องเสียงในฝันที่ผมอยากจะได้ และคิดไว้ว่ามีแล้วจะจบ จะหยุดทุกอย่าง อยู่กับมันอย่างมีความสุขไปตลอดนั้นมันคืออะไรผมยังไม่รู้เลย

จะว่าไปรสนิยมคนเรานี่มันแปรเปลี่ยนไปตาม อายุ สังคม และประสบการณ์ที่พานพบมานะครับ บางทีเราอยู่ในสังคมแบบไหนเราก็มักจะถูกหล่อหลอมมาแบบนั้น อายุก็ด้วย หลายๆคนยิ่งอายุเพิ่ม ก็ยิ่งลดความหนักลง หันมาเล่นเครื่องเสียงที่ให้เสียงนุ่มนวลฟังสบายขึ้น หรือหลายคนเปลี่ยนแนวมาฟังดนตรีบรรเลง เพลงแจ๊ส new age, classic ก็มีเยอะ

เล่ามาถึงจุดนี้ แล้วเครื่องเสียงชิ้นแรกของเพื่อนๆละครับ คืออะไรแล้วมันประทับใจอะไรถึงยังจำมาได้จนถึงทุกวันนี้?