พื้นฐานอุปกรณ์เสียง ที่ทุกระบบต้องมี!!
แน่นอนว่าในระบบเสียง ต้องมีไว้เพื่อขยายเสียงอะไรซักอย่าง นั่นก็คือเสียง “พูด” ยังไงละ แรกเริ่มเดิมที เครื่องขยายเสียง มีไว้เพื่อเพิ่มความดังเสียงของผู้พูด ให้ผู้ฟังจำนวนมากได้ยิน หรือ กระจาย ระบบเสียง เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ให้คนที่อยู่ไกลได้รับรู้ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป อุปกรณ์พวกนี้ ถูกใช้เพื่อความบันเทิงมากขึ้น ทั้งงานคอนเสริต เปิดเพลง ร้องคาราโอเกะ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย คือ ไมโครโฟน
ไมโครโฟน ทำหน้าที่อะไร ? ไมโครโฟน ทำหน้าที่รับเสียง เพื่อป้อนเข้าสู่ระบบเพื่อขยายต่อไป ถ้าเปรียบเทียบไมค์โครโฟน กับอวัยวะของคนก็คือ “หู” นั่นเอง
ประเภทของไมโครโฟน การแบ่งประเภทของ ไมโครโฟน มีหลายแบบมาก ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เกณท์อะไรในการแบ่ง แต่ไมค์ 95% จะจัดอยู่ใน 2 ชนิดนี้เป็นหลัก ได้แก่
• ไดนามิก ไมโครโฟน การทำงาน คือ การรับสัญญาณคลื่นเสียง ที่กระทบกับแผ่นรับเสียง เรียกว่า ไดอะเฟรม (Diaphragm) เมื่อแผ่นรับเสียงเกิดการสั่นสะเทือน จะทำให้ขดลวดที่พันอยู่รอบ ๆ เคลื่อนที่ตัดสนามแม่เหล็ก เกิดเป็นแรงดันไฟฟ้าที่ขดลวด ส่งผ่านไปยัง เครื่องขยายเสียง ทำให้เกิดเสียงที่มีความดังขึ้นมาไมโครโฟนชนิดนี้ เป็นไมค์ที่ถูกใช้มาก มักพบเห็นได้บ่อย ๆ ในงาน ระบบเสียง ต่าง ๆ เป็นไมค์เอนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลายสถานการ ทั้ง เสียงพูด เสียงเครื่องดนตรีต่าง ๆ ข้อดีของไมค์ชนิดนี้คือ ใช้ง่าย ต่อเสียบแล้วใช้งานได้ทันที
• คอนเดนเซอร์ ไมโครโฟน ประกอบไปด้วย แผ่นรับเสียง ไดอะเฟรม (Diaphragm) ประกบกับแผ่นเพลท ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวเก็บประจุ เมื่อเสียงทำให้ไดอะเฟรมสั่นสะเทือน ค่าความจุของตัวเก็บประจุก็จะเปลี่ยนแปลง เกิดเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วส่งผ่านไปยังเครื่องขยายเสียงทำให้เกิดเสียงขึ้นไมโครโฟน ชนิดนี้จะตอบสนองความถี่สูงได้ดี การใช้งาน ไมค์ คอนเดนเซอร์จะต้องมีแหล่งจ่ายไฟเลี้ยง หรือมีแบตเตอรี่ถึงจะทำงานได้