10 อันดับ หูฟังออกกำลังกาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2021
ในบทความนี้เรามาแนะนำหูฟังสปอร์ตที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกาย ใช้ในยิม และการแข่งขันกีฬา
หูฟังกีฬาที่ดีที่สุดคือคู่หูของคุณในการดูแลสุขภาพ ไม่ใช่เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยรักษาแรงจูงใจของคุณด้วยการผสมผสานการออกกำลังกายที่ชื่นชอบได้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหูฟังหรือเอียร์บัดไร้สายที่ดีที่สุด คู่ไหนก็สามารถทำได้
หูฟังในบทความนี้เน้นไปที่ความทนทานและความกระชับพอดี การออกกำลังกายที่หนักหน่วงในกิจกรรมและการเล่นกีฬาอาจทำให้หูฟังเอียร์บัดรุ่นทั่วไปหลุดเลื่อน ถ้ามีการกันน้ำหรือกันเหงื่อก็จะช่วยปกป้องอุปกรณ์ของคุณในการออกกำลังกายที่หนักเป็นพิเศษ และในเวลาที่ฝนตกได้ นี่คือคุณสมบัติหูฟังกีฬาที่ดีที่สุดที่ได้รับการพัฒนาในตอนนี้ ลองอ่านเนื้อหาต่อไปเพื่อดูข้อมูลหูฟังที่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา
• ใช้งานได้อย่างคล่องตัวด้วยหูฟังที่ดีที่สุดสำหรับการวิ่ง
จากการทดสอบของเรา หูฟังกีฬาที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกายคือ Jabra Elite Active 75t เป็นรุ่นที่ให้ความสะดวกสบายอย่างน่าทึ่ง และมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในหลายด้านที่สำคัญ ได้แก่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ความทนทาน คุณภาพเสียง และคุณสมบัติพิเศษ เป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวเลือกที่ได้รับคะแนนที่สมบูรณ์แบบจากการทดสอบของเรา
ผู้ใช้ iPhone เลือกได้ระหว่าง AirPods Pro (อีกหนึ่งตัวเลือกที่คะแนนดีมาก), Beats Powerbeats Pro และ Beats Powerbeats 4 ทั้งสามรุ่นให้เสียงที่น่าประทับใจและง่ายต่อการจับคู่กับสมาร์ทโฟน Apple ทุกรุ่น พร้อมกับความโดดเด่นของตัวเอง AirPods Pro มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนเป็นจุดเด่น ในขณะที่ Powerbeats Pro และ Powerbeats 4 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นและเหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่หนักหน่วงกว่า ชิป H1 ของ Apple ขับเคลื่อนอุปกรณ์แต่ละเครื่องและเชื่อมต่อกับลูกเล่นมากมายของระบบ iOS
ผู้ออกกำลังกายที่คำนึงถึงงบประมาณและยังต้องการประสิทธิภาพการใช้งานในราคาประหยัด สามารถเลือกซื้อ Amazfit Powerbuds ได้ มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มากับชุดหูฟังไร้สายราคา 2,400 บาท
เมื่อเทียบกับการทดสอบคุณสมบัติทุกด้าน Elite Active 75t ถือเป็นหูฟังกีฬาที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังกาย
Jabra สามารถลดขนาดหูฟังลงได้ พร้อมกับที่เพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ (7.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จและ 28 ชั่วโมงเมื่อใช้กล่องชาร์จ) และการปกป้องระดับ IPX (IP57) ทำให้กันน้ำ กันฝุ่น และกันเหงื่อได้ดี Jabra จัดจำหน่ายหูฟังรุ่นนี้ในหลายสีสันที่โดดเด่น เช่น Copper Black, Grey, Mint, Navy, Sienna และ Titanium Black
แม้จะมีขนาดที่เล็กกว่า แต่ Elite Active 75t ยังให้ความสบายและความมั่นคงในการสวมใส่ในใบหู อุปกรณ์ไม่ได้เคลื่อนไหวเลยในขณะที่เรากำลังออกกำลังกาย และคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับเสียงที่มีชีวิตชีวาแบบเดียวกับรุ่นอื่นในซีรีส์ Elite กับเสียงเบสที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้ได้เสียงที่มีรายละเอียดครบถ้วน
คุณสามารถปรับแต่งเสียงเพิ่มเติมได้ผ่านแอปของ Jabra พร้อมกับการอัปเดต ANC แบบ over-the-air ที่เปิดตัวให้ใช้งานได้ฟรี ดังนั้นผู้เป็นเจ้าของ Elite Active 75t (และ Elite 75t) ทั้งหมด จะสามารถใช้โหมดตัดเสียงรบกวนที่ใช้งานได้ดี เพื่อป้องกันเสียงรบกวนรอบข้างขณะออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหว
ถ้าคุณชอบความสะดวกสบายของหูฟัง AirPods ของ Apple แต่ไม่ชอบการออกแบบ เราแนะนำแบรนด์ Beats by Dre ของ Apple ที่ผลิต Powerbeats Pro แบบสปอร์ตเป็นทางเลือก เอียร์บัดกันเหงื่อแบบไร้สายที่เกี่ยวกับหูรุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อความมั่นคงในการสวมใส่ ใช้ชิป H1 ของ Apple (ที่พบใน AirPods Pro ของ Apple) เพื่อการใช้งานร่วมกับ iPhone ได้อย่างง่ายดาย และมีสีดำล้วนทำให้สังเกตเห็นได้น้อยลง การอัปเดตเป็น iOS 14 ช่วยให้ผู้ออกกำลังกายสามารถเปลี่ยนไปใช้ iDevices อื่น ๆ โดยอัตโนมัติได้ หากคุณต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์จาก iPhone เป็น MacBook Pro ในขณะที่ออกกำลังกายที่บ้าน
การควบคุมทั้งสองข้างช่วยให้คุณเปลี่ยนเพลงและระดับเสียงได้ พร้อมกับติดต่อ Siri และรับสายโทรศัพท์ เราพบว่า Powerbeats Pro ให้เสียงที่สมดุล ไม่มีเสียงเบสที่หนักเกินไปแบบผลิตภัณฑ์ Beats รุ่นอื่น ๆ
ด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง (ใช้ได้ 9 ชั่วโมง และอีก 18 ชั่วโมงพร้อมกล่องชาร์จ) รุ่นนี้จึงกลายเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้อ่านที่มองหาหูฟังกีฬาที่ดีที่สุดที่คุณใช้ได้ยาวนาน เราชอบการออกแบบของผลิตภัณฑ์รุ่นดั้งเดิม แต่รุ่นใหม่ที่มีสีสันสดใสของแบรนด์ (Glacier Blue, Cloud Pink, Lava Red และ Spring Yellow)ก็ทำให้ดีไซน์ดียิ่งขึ้น
แม้ว่า AirPods จะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย แต่เรายังคงคนใช้มากมายขณะที่เราออกไปทดสอบด้วยการวิ่ง ในรุ่นนี้ Apple ได้สร้างให้เป็นอุปกรณ์ที่คุณสามารถสวมใส่เพื่อออกกำลังกายได้ AirPods Pro มีความทนทานต่อเหงื่อและน้ำ ช่วยเพิ่มการปกป้องอีกชั้นจากที่รุ่นเก่าขาดไป จุกหูฟังที่ให้มายังสร้างความแตกต่างอย่างมากในด้านความสบายและคุณภาพเสียง รักษาความกระชับพอดี รู้สึกผ่อนคลาย และปรับปรุงคุณภาพได้ดีขึ้นในการปิดเสียงรบกวนรอบข้าง
AirPods Pro ให้คุณสมบัติการตัดเสียงรบกวนที่ดีมาก สามารถปิดเสียงภายนอกรอบ ๆ ตัวคุณได้ไม่ว่าจะอยู่ในยิม หรืออกกำลังกายใกล้บ้าน มีโหมดความโปร่งใสสำหรับนักวิ่งกลางแจ้ง เพื่อให้คุณได้ยินเสียงจากสภาพแวดล้อมรอบข้างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องหยุดเพลงชั่วคราว มีการควบคุมที่ได้รับการปรับปรุง เรียกใช้ “Siri” ได้โดยไม่ต้องจับอุปกรณ์ และยังมีการอัปเดตที่ยอดเยี่ยม ให้เสียงรอบทิศทางที่เพลิดเพลินเหมือนเสียงในโรงละคร โดยเฉพาะเมื่อคุณใช้ดู Netflix บน Peloton ทำให้หูฟังรุ่นนี้เป็นหนึ่งในหูฟังกีฬาที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ iOS
Adidas อาจจะไม่ใช่แบรนด์ที่คุณนึกถึงเมื่อต้องการเลือกซื้อหูฟังกีฬา แต่รุ่น RPT-01 มีการออกแบบและคุณสมบัติที่ดึงดูดความสนใจของคุณได้ เพราะหูฟังแบบครอบหูรุ่นนี้มีการออกแบบที่ยั่งยืนเช่นเดียวกับรองเท้าวิ่งของแบรนด์ ดีไซน์ห่อหุ้มด้วยผ้าตาข่าย มีสไตล์ แข็งแรง และการป้องกันการกันน้ำระดับ IPX4
คุณสามารถถอดและล้างฟองน้ำรองหูฟังและแถบคาดศีรษะด้านในได้ พร้อมกับคุณภาพเสียงที่เป็นจุดเด่นของ RPT-01 นอกจากนี้ทาง Adidas ได้เปิดตัวแอปคู่หูที่มีการตั้งค่า EQ หลายแบบ ปรับแต่งเลือกแนวเพลงและเสียงที่ยอดเยี่ยม
การควบคุมนั้นก็เป็นอีกส่วนที่มีความสร้างสรรค์ มีตั้งแต่ปุ่มปรับหลายทิศทางและสั่งงานหลายคำสั่ง (เล่น, โทร, เปิด / ปิด) ไปจนถึงปุ่ม Action ที่ผู้ใช้สามารถกำหนดให้ Siri / Google Assistant หรือ Spotify ทำงานได้
ส่วนแผ่นรองให้ความรู้สึกอ่อนโยนต่อหู แต่แถบคาดศีรษะจะค่อนข้างหนักและใช้แรงกดมากกว่าที่จำเป็น สำหรับยึดกับศีรษะของคุณ น่าเสียดายที่ทาง Adidas ไม่ได้รวมกระเป๋าถือใส่อุปกรณ์มาด้วย
ขนาดและน้ำหนัก: 0.7 x 1 x 0.8 นิ้ว, 0.2 ออนซ์ (ต่อข้าง) | อายุแบตเตอรี่: 5 ชั่วโมง, 15 ชั่วโมง (เมื่อใช้กล่องชาร์จ) | ระยะบลูทูธ: 30 ฟุต (10 เมตร) | กันน้ำ: ได้
หูฟังรุ่นล่าสุดของ Bose เป็นรุ่นที่สปอร์ตขึ้นจาก QuietComfort Earbuds ที่ได้รับความนิยม ลดโหมดการฟังและการออกแบบที่ใหญ่โตออกไป ทำให้มีน้ำหนักเบาและเล็กลง มาพร้อมกับการป้องกันการกันน้ำ (IPX4) และจุกแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสำหรับรูปทรงหูที่แตกต่างกัน
มีการปรับเสียงต่ำลดลงจาก SoundSport Free ซึ่งอาจเป็นทั้งข้อดีหรือข้อเสีย ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าเสียงของคุณ แต่ผู้ที่ชื่นชอบเสียงเพลงจะต้องพอใจกับเสียงเบสที่หนักแน่นและรายละเอียดที่คมชัด จุดเด่นอีกอย่างคือการเชื่อมต่อของบลูทูธ 5.1 ในระดับแนวหน้า จับคู่ได้ง่าย และมีระยะสัญญาณไร้สายสูงกว่าที่โฆษณาไว้ (40 ฟุต)
ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายที่ต้องการใช้ Sport Earbuds ทุกวัน จะต้องรักษาระดับแบตเตอรี่ไว้ให้เพียงพอ เนื่องจากหูฟังและกล่องชาร์จไม่ได้มีอายุการใช้งานนานมากนัก แอป Bose Connect ในรุ่นนี้มีคุณสมบัติที่ใช้ได้ไม่เยอะมาก
Jaybird Vista เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักวิ่งที่ต้องการเสียงรอบด้าน และมีความเสถียรในการสวมใส่โดยไม่ต้องใช้สายเคเบิล ที่อาจทำให้รู้สึกรำคาญ ภายใต้อุปกรณ์กันน้ำที่ทนทาน มีไดรเวอร์ขนาด 6 มิลลิเมตรที่ทรงพลัง ให้เสียงเบสนำในระหว่างการออกกำลังกายของคุณ
คุณสามารถปรับแต่งความพอดีของการสวมใส่ของหูฟัง Jaybird ได้จากจุกหูและส่วนต่าง ๆ เพื่อรองรับรูปทรงหูที่แตกต่างกัน สามารถปิดกั้นเสียงได้ดี แต่บางครั้งก็อาจจะมากเกินไป ทำให้เมื่อคุณฟังเพลงระหว่างออกไปข้างนอก อาจจะได้ยินเสียงการจราจรไม่ชัดเจนมากนัก
อายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นระยะเหมาะสมที่ 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม แม้ว่าคู่แข่งหลายรายจะให้อายุยาวนานกว่าก็ตาม การแยกเสียงรบกวนก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน แต่ก็น่าเสียดายที่ Jabra ไม่ได้ตั้งโปรแกรมเอียร์บัดให้มีโหมดโปร่งใสให้ผู้ฟังรับรู้สภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น
เมื่อคุณสมบัตินี้ขาดหายไป ทำให้ Vista ใช้งานได้ดีมากกว่าสำหรับการออกกำลังกายในร่ม ตอนนี้คุณสามารถเลือกซื้อ Vista ได้ประมาณ 1,300 บาท แต่เป็นสี Nimbus Grey เท่านั้น นักวิ่งที่ชื่นชอบการออกแบบที่น่าสนใจอาจต้องรออรุ่นใหม่เป็นสี Planetary Green
น้ำหนักและขนาด: 3.2 x 2 x 1.2 นิ้ว, 0.2 ออนซ์ (ต่อข้าง) | อายุแบตเตอรี่: 8 ชั่วโมง, 24 ชั่วโมง (เมื่อใช้กล่องชาร์จ) | ระยะบลูทูธ: 30 ฟุต (10 เมตร) | กันน้ำ: ได้
หากเราจะบอกว่า Amazfit Powerbuds เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจ อาจเป็นคำชมที่น้อยไป เทียบกับฟังก์ชันการทำงานของที่ใส่ไว้ในเอียร์บัดรุ่นนี้ กับราคาต่ำกว่า 3,000 บาท มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ PPG ที่รวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกซ์ สามารถบันทึกไว้ในแอปที่ใช้งานร่วมกันได้
แอป Zepp ของรุ่นนี้มีช่องติดตามกิจกรรมมากมาย (เช่น แคลอรี่ที่เผาผลาญ ค่า BMI จำนวนก้าวเดิน) และการตั้งค่าส่วนบุคคล ระบบ EQ ที่ปรับแต่งได้ พร้อมการตั้งค่าล่วงหน้าหลายโหมดการทำงาน รวมทั้งโหมดออกกำลังกาย ให้เวลาเล่นยาวนาน (8 ชั่วโมง) ที่คุณจะได้รับการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง พร้อมกับการตอบสนองเสียงเบสเพื่อรักษาความตื่นเต้น
ความสะดวกสบายอาจเป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้บางราย เนื่องจากหูฟังรุ่นนี้มีขนาดเทอะท เซ็นเซอร์แนบกับใบหูเพื่อให้พอดีกับความมั่นคง อาจกลายเป็นส่วนที่จะกดกับผิวหนัง ถ้าแอปสามารถทำงานร่วมกับแอปอื่น ๆ ที่ยอดเยี่ยมได้ก็คงจะดีมาก แต่ดูเหมือนว่า Strava และ Relive จะเป็นแอปที่เชื่อมต่อได้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ก็ยังมีประสิทธิภาพมากเมื่อเทียบกับราคาที่ไม่แรงนัก
Elite Active 65t สร้างมาตรฐานสำหรับหูฟังกีฬาไร้สายด้วยการผสมผสานคุณสมบัติขั้นสูงและเสียงที่ยอดเยี่ยมไว้ในแพ็คเกจขนาดกะทัดรัดที่สามารถกันน้ำได้ แม้ว่าจะเป็นรุ่นเก่า ก็ยังทำงานได้ดีในทุกหมวดหมู่การทำงานที่สำคัญ
เราพบว่ารุ่นนี้เกาะหูได้อย่างมั่นคง แม้ในระหว่างการออกกำลังกายที่ยากที่สุด และยังทนต่อเหงื่อได้ดี ช่วยป้องกันการลื่นไหล เราชื่นชมวิธีที่ Jabra จัดการกับเครื่องวัดความเร่งภายในอุปกรณ์ได้ ที่ใช้สำหรับการติดตามการวิ่ง ทำให้ Elite Active 65t สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ติดตามกิจกรรมได้ด้วยเมื่อ Fitbit ของคุณแบตหมด
รุ่นนี้ให้เสียงดีพอกับรุ่นใหม่ในตระกูลคือ Elite 75t Active ถือเป็นคุณภาพการใช้งานที่ดี สามารถเข้าใช้แอป Jabra Sound + เพื่อปรับแต่งเสียงและเปิดใช้งานโหมดต่าง ๆ ได้ เช่น HearThrough สำหรับการฟังเสียงโดยรอบ ด้วยความพอดีของคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 15 ชั่วโมง คุณจะได้รับประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในราคาสุดคุ้ม
Powerbeats 4 มีคุณสมบัติคล้ายกับหูฟังไร้สายในตระกูลเดียวกัน มีความแตกต่างไม่กี่อย่าง และต่างจากรุ่นที่ไร้สาย เป็นหูฟังกีฬาที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ด้วยการใช้ประโยชน์สูงสุดจากโปรเซสเซอร์ H1 มอบประสิทธิภาพไร้สายที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้ เชื่อมต่อได้ทันทีกับผลิตภัณฑ์หลักของ Apple และมีแอป Beats จับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android ได้ง่ายขึ้น
สิ่งที่ทำให้ Powerbeats 4 เป็นรุ่นที่เหนือกว่าจาก Powerbeats 3 อย่างชัดเจน คือการออกแบบที่แข็งแกร่งขึ้น และคุณภาพเสียงและการโทรที่ดีขึ้น การปรับปรุงคุณภาพการโทรเป็นสิ่งที่เราคาดหวัง เนื่องจาก Beats เลือกใช้ไดรเวอร์และไมโครโฟนรูปแบบเดียวกันกับ Powerbeats Pro ความสะดวกสบายในการใส่ดีขึ้นเล็กน้อย แต่สายทำให้รู้สึกรำคาญหลังจากใช้งานไปซักระยะ โดยรวมยังมีประสิทธิภาพดีมาก เมื่อพิจารณาจากราคาประมาณ 4,500 บาท
รุ่น Tarah Pro มีลักษณะเหมือนกับหูฟังบลูทูธสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ ของ Jaybird แต่คุณสมบัติมีความแตกต่าง รุ่นนี้จะเป็นหูฟังที่คุณอยากใช้ห้อยคอระหว่างออกกำลังกาย ด้วยแบตเตอรี่มีอายุการใช้งาน 14 ชั่วโมง ใช้งานได้ตลอด 1 สัปดาห์สำหรับทั้งการออกกำลังกาย การเดินทาง และการโทรศัพท์หาครอบครัวและเพื่อน เราประทับใจการจัดการพลังงานที่ใช้งานง่าย มีระบบปิดหูฟังโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 15 นาที คุณยังสามารถตั้งค่าโปรไฟล์เสียงที่ปรับแต่งได้เองในแอป Jaybird ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับหูของคุณ
คุณภาพของอุปกรณ์เป็นจุดเด่นที่แท้จริงของรุ่น เนื่องจาก Tarah Pro มาพร้อมกับระดับ IPX7 ทำให้กันน้ำและกันเหงื่อได้ดีเยี่ยม สายผ้ามีความเหนียวมากและไม่ชำรุดเสียหายง่ายเหมือนกับสายซิลิโคนในรุ่นอื่น ๆ
คุณสมบัติที่เราไม่ค่อยพอใจนัก คือรุ่นนี้ไม่มีโหมดเสียงโปร่งใสและบางครั้งเสียงขาดเมื่อเปลี่ยนจากการเล่นบนอุปกรณ์มือถือเป็นการเล่นจากระยะไกล หากหูฟังรุ่นนี้ในราคาประมาณ 4,000 บาทเป็นราคาที่สูงกว่างบประมาณของคุณ เราขอแนะนำอีกรุ่นที่ไม่แพง คือ Jaybird Tarah (ประมาณ 1,000 บาท) ซึ่งเป็นหนึ่งในหูฟังราคาถูกที่ดีที่สุด
หูฟังออกกำลังกายที่ดีที่สุด จะมีการป้องกันน้ำหรือเหงื่อในบางระดับ บางรุ่นสามารถทนน้ำและเหงื่อได้ และบางรุ่นจะได้รับการรับรอง IP ด้วย หากคุณต้องการใช้งานในส่วนนี้อย่างมั่นใจ ให้มองหาหูฟังที่มีระดับ IPX4 (หรือสูงกว่า) เป็นอย่างน้อยสำหรับการปกป้องในการใช้งาน
นอกจากนี้ คุณยังต้องดูการออกแบบของหูฟัง และพิจารณาว่าคุณต้องการสวมใส่อย่างไรในขณะออกกำลังกาย เพราะอุปกรณ์ที่ดีควรสวมใส่ง่าย และเกาะบนศีรษะของคุณได้ โดยไม่จำเป็นต้องจับหรือเลื่อนใหม่ตลอดเวลา
สำหรับหูฟังเอียร์บัด ให้ดูที่ตัวหูฟังและครอบหูที่มาในเซ็ต เพื่อให้คุณได้ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการสวมใส่ บางคนอาจชอบหูฟังแบบครอบหูหรือแบบเกาะกับใบหู เพราะป้องกันเสียงรบกวนได้ดีกว่า แต่บางคนก็ชอบแบบเอียร์บัดเพื่อความกระชับพอดีและพกพาได้ด้วยน้ำหนักที่เบา
สำหรับหูฟังที่มีสาย ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีรีโมทแบบอินไลน์ ที่จะช่วยให้คุณควบคุมเพลงได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องดึงสมาร์ทโฟนออก หูฟังสำหรับออกกำลังกายแบบไร้สายที่ดีจะช่วยให้คุณควบคุมเพลงด้วยปุ่มกด หรือใช้การแตะบนหูฟังแทนรีโมท สำหรับหูฟังบางรุ่นจะเป็นหูฟังที่เชื่อมต่อได้เฉพาะอุปกรณ์บางประเภท ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกซื้อรุ่นที่เข้ากันได้กับระบบ Android และ iOS อย่างสมบูรณ์
หากคุณกำลังพิจารณาหูฟังสปอร์ตไร้สาย ควีตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นรุ่นที่มีความทนทานตามที่คุณต้องการ บางคนต้องการหูฟังที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพียง 6 ถึง 8 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อให้ใช้งานได้นานถึงหนึ่งสัปดาห์ ในขณะที่ผู้ใช้คนอื่น ๆ อาจต้องการอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น เพื่อการวิ่งระยะไกล ขี่จักรยาน และเดินป่า เป็นต้น
เมื่อได้ศึกษารายละเอียดของวิธีเลือกซื้อหูฟังเพื่อการออกกำลังกายและ 10 อันดับ หูฟังบลูทูธเพื่อการออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับคนรักสุขภาพที่เราแนะนำแล้ว หวังว่าผู้อ่านจะได้เคล็ดลับในการเลือกซื้อหูฟังของคุณ และมีความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานและคุณสมบัติสำคัญของหูฟังเพื่อการออกกำลังกายมากขึ้น หวังว่าคุณจะเจอหูฟังออกกำลังกายที่ถูกใจและมีคุณภาพคุ้มราคา ที่ทำให้คุณสนุกกับการฟังเพลงไปพร้อมกับการออกกำลังกายและเล่นกีฬานะคะ